คูลๆ ไปกับ 25 ไอเดียตกแต่งบ้านให้สวยงามก่อนการอยู่อาศัย

Anuwat Anuwat
Sofás en línea clásica., Interiorista María Victoria Mengual Interiorista María Victoria Mengual Classic style living room
Loading admin actions …

ไม่เพียงแต่ขนาด ทำเลที่ตั้งหรือมุมห้องที่ครบครัน การตกแต่งภายในถือเป็นหัวใจสำคัญอีกหนึ่งอย่างเพราะสามารถเข้ามาเติมเต็มให้การอยู่อาศัยเกิดความคล่องตัวและสะดวกสบาย ที่สำคัญยังเพิ่มสีสันและสไตล์การตกแต่งได้อย่างอิสระ ทำให้ภารวมการพักผ่อนดูสวยงาม เพลิดเพลิน

ฉะนั้นก่อนการตกแต่งภายในที่ดีและสมบูรณ์ทุกคนควรเตรียมความพร้อม นับตั้งแต่การจัดซื้อเฟอร์นิเจอร์ การเลือกใช้โทนสีให้สอดรับและสมดุลกับแสงจากธรรมชาติ การวางระบบไฟฟ้าและประปา โดยปปัจจัยนี้สำคัญอย่างมากเพราะขึ้นอยู่กับคงามปลอดภัย อีกทั้งยังเพิ่มความสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังเสริมของตกแต่งที่ชื่นชอบได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็น ภาพวาดศิลปะ พรม งานปั้น ของสะสม และอื่นๆอีกมากมาย  อย่างไรก็ดีบ้านยุคนี้ยังนิยมนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาผสมผสานเพื่อเสริมในเรื่องความปลอดภัยและดูทันสมัย

ซึ่งในวันนี้ Homify ขออาสานำพาทุกท่านเยี่ยมชมไอเดียและเทคนิคแบบง่ายๆในการเตรียมตัวเพื่อพร้อมต่อการตกแต่งบ้านก่อนการอยู่อาศัย โดยผลลัพธ์ที่ได้ไม่ได้มีดีแต่ความสวยงาม แต่ยังสะดวกสบายและดูปลอดภัยได้อย่างเหมาะสม ทั้งนี้ผู้อยู่อาศัยสามารถนำไปปรับใช้ได้ในทันทีด้วยความสร้างสรรค์

1.​ตกแต่งอย่างเรียบง่าย จัดวางอย่างเป็นระเบียบ

ขั้นตอนแรกและเรียบง่ายที่สุดสำหรับการตกแต่งภายในคือการเลือกใช้โทนสีที่เรียบง่ายและดูผ่อนคลาย อาทิ สีขาว ซึ่งสีดังกล่าวนอกจากนำเอาของตกแต่งต่างๆมาจัดวางได้อย่างยืดหยุ่นแล้ว ยังเพิ่มความส่องสว่างให้กับภายใน้บาน พร้อมกันนี้สีดังกล่าวยังทำให้ภาพรวมภายในบ้านดูกว้าง สดใหม่และทันสมัย และอีกหนึ่งแนวทางการตกแต่งที่เรียบง่ายสุดๆคือการจัดวางเฟอร์นิเจอร์อย่างเป็นระเบียบ จัดวางในลักษณะผนังเพื่อเพิ่มพื้นที่ส่วนกว้างใหดูกว้าง เว้นช่องไฟทางเดินด้วยความสม่วน และเก็บเศษขยะ กวาดบ้าน ถูบ้านเพื่อทำให้พื้นและมุมห้องภายในน่าใช้สอยด้วยความเป็นระเบียบ

2.​ตกแต่งด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยเฉพาะเทคโนโลยีอย่างคอมหิวเตอร์

นอกจาเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นทั่วไป การนำเอาคอมพิวเตอร์สักเครื่องมาจัดวางในมุมอ่านหนังสือหรือทำงานก็ช่วยทำให้ภาพรวมภายในบ้านดูทันสมัย อีกทั้งยังคล่องตัวต่อสมาชิกในครอบครัวสำหรับการสืบค้นข้อมูลโดยเฉพาะเรื่องราวที่จะนำมาใช้ในการตกแต่งภายในบ้าน  สำหรับการจัดวางเครื่องใช้ไฟฟ้าดังกล่าวควรวางในที่โปร่ง โล่ง มีระบบไฟฟ้าที่ใกล้ ดูแลและทำความสะอาดได้ง่าย ยิ่งไปกว่านั้นตอมพิวเตอร์ที่ดีไซน์สวยงามยังเป็นเหมือนของตกแต่งที่ดีภายในบ้านได้อีกชิ้น

3.​ของเครื่องใช้ในห้องน้ำ

ภาพรวมของการตกแต่งห้องน้ำที่ดีนอกจากความสวยงามของโทนสีและความปลอดภัยของวัสดุปูพื้น เราต้องคำนึงถึงความสะดวกสบายผ่านการนำเอาของเครื่องใช้จำพวกสุขภัณฑ์มาตกแต่งและติดตั้ง ไม่ว่าจะเป็น โถส้วม อ่างอาบน้ำ อ่างล้างหน้า พร้อมกันยังต้องมีก๊อกน้ำอีกหลากหลายดีไซน์ที่คุณสามารถนำมาตกแต่งได้อย่างสร้างสรรค์  ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งต้องให้ความสำคัญมาเช่นกัน คือ ระบบประปาและระบบไฟฟ้า จำพวกหลอดไฟ ทั้งนี้ทุกคนยังเพิ่มกลิ่นอายความเป็นธรรมชาติอย่างกระถางต้นไม้เข้าไปได้อีกด้วย เพียงเท่านี้ห้องน้ำที่ดูเหมือนจะธรรมดาก็ดูพิเศษและน่าใช้งาน

4.โคมไฟระย้าและระบบไฟฟ้าที่ทั่วถึง

ระหว่างโถงทางเดินของบ้าน นอกจากความกว้างและปลอดภัยของวัสดุปูพื้น รวมทั้งโทนสีที่นำมาตกแต่ง สิ่งหนึ่งที่เราควรพึงปฏิบัติคือการนำเอาโคมไฟหรือระบบความส่องสว่างมาติดตั้ง ซึ่งจะจัดวางไว้บริเวณพื้น ด้านข้างระหว่างทางหรือเพดาน โดยเฉพาะในมุมของเพดานนั้นผู้อยู่อาศัยสามารถเลือกโคมไฟดีไซน์ต่างๆได้อย่างหลากหลาย อาทิ โคมไฟระย้าแบบไอเดียบุคนี้ ดูแล้วหรูหรา ทันสมัย อีกทั้งยังมีส่องสว่างสูงให้กับมุมบันไดได้อย่างคล่องตัว

5.เตียงนอนและที่นอนดีๆสักหลัง

Digs daybed Loaf Scandinavian style bedroom Metal bed,metal bed,linen mattress,comfy daybed,industrial bed,Beds & headboards

หัวใจสำคัญก่อนการตกแต่งห้องนอนคือการเลือกเตียงนอนและที่นอนสักชุด ซึ่งเราต้องคำนึงถึงความจำเป็นของการอยู่อาศัย ขนาดของสรีระของผู้หลับนอนเป็นหัวใจสำคัญ เมือได้คำตอบแล้วนั้นก็เลือกเตียงที่สมส่วนกับเรา อาทิ เตียงโครงเหล็กดูแล้วกระชับดี เรียบง่าย ติดตั้งสะดวก ที่สำคัญดูทันสมัยในแบบสไตล์โมเดิร์น สำหรับฟูกที่นอนก็ควรเลือกตามความเหมาะสม นอนแล้วรู้สึกสบาย ยิ่งในปัจจุบันที่นอนหนึ่งผืนในไทยมีอายุการใช้ที่นาน มีการรับประกันที่ยาวนานและมีการนำเอาวัสดุธรรมชาติมาออกแบบ ทำให้ทุกการหลับนอนดูสุขใจเสมือนกับได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีการพัฒนาที่ล้ำหน้า ทั้งน้ำหนักที่เบา ไม่มีฝุ่นละออง และขนาดเหมาะสม

6.​แบ่งพื้นที่ภายในด้วยความสมส่วนและเป็นระเบียบ

ระหว่างการตกแต่งภายใน นอกจากการจัดเฟอร์นิเจอร์อย่างเป็นระเบียบในลักษณะชิดผนังแล้ว เรายังต้องคำนึงถึงบริบทโดยรอบ อาทิ ช่องทางเดิน ระยะการใช้สอยเครื่องเรือนต่างๆ รวมทั้งมุมห้องที่ใกล้คียงว่ามีความสมส่วนไหม กว้างพอหรือเปล่า เพราะถ้าแคบหรือชิดจนเกินไปอาจทำให้พื้นที่ดังกล่าวใช้สอยไม่สะดวก ฉะนั้นการมุ่งเน้นการเปิดโล่ง การนำเอาผนังหรือบานกั้นมาติดตั้ง รวมทั้งใช้เฟอร์นิเจอร์มากำหนดและแบ่งโซนห้องจะช่วยให้ภาพรวมแต่ละมุมห้องเกิดความคล่องตัวและสะอาดน่าอยู่อาศัย

7.​เอาให้ครบครันและใช้สอยอย่างคุ้มค่าในทุกพื้นที่

พื้นที่ภายในหนึ่งห้องควรนำเอาเฟอร์นิเจอร์และของเครื่องใช้ที่จำเป็นมาจัดวางให้เกิดความครบครัน อาทิ ห้องนั่งเล่นควรจะมี โซฟา โต๊ะกลาง ระบบไฟฟ้าจากหลอดไฟและเคาน์เตอร์วางทีวี พร้อมกันนี้ทุกคนอาจเสริมม้านั่ง เตาผิง รวมทั้งของสะสมต่างๆ อาทิ ภาพงานศิลปะ หรือกระถางต้นไม้ รวมทั้งพรมโดยทั้งหมดจะเข้ามาเติมเต็มให้การใช้สอยเกิดความสะดวกสบายและครบครันอีกทั้งยังแสดงออกถึงการจัดการพื้นที่ให้คุ้มค่า

8.โซฟา

ต่อจากห้องนั่งเล่น อีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญมากๆคือการเลือกใช้โซฟา นอกจากชนิดและโทนสีที่มีให้เลือกอย่างหลากหลายเราควรเลือกขนาดของโซฟาให้สมส่วนกับมุมห้องหรือจำนวนสมาชิก เพราะถ้าหากเล็กไปก็จะทำให้มุมนั่งเล่นดูอึดอัด แค่ถ้าใหญ่ไปก็ทำให้มุมห้องดูไม่โดดเด่น ดังนั้นควรเลือกให้สอดรับ ในแง่ของการจัดวางนิยมชิดผนังเพื่อเพิ่มพื้นที่ส่วนกลางในการจัดวางโต๊ะกลาง ขณะเดียวกันการจัดวางไว้บริเวณผนังยังทำให้โซฟาดูเป็นระเบียบ ไม่เกะกะ

9.เลือกโต๊ะหรือเก้าอี้ที่ทนทาน สวยงาม และยืดหยุ่น

การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์อย่างโต๊ะและเก้าอี้ที่มีความทนทาน อาทิ ทำมาจากงานไม้ ส่วนใหญ่ได้รับความนิยมเพราะนอกจากนำมาตกแต่งภายในได้อย่างสวยงาม ในขณะเดียวกันยังเคลื่อนย้ายไปใช้ยังพื้นที่ส่วนนอกเพื่อรับรองผู้มาเยือนหรือนำไปใช้ในการนั่งชมวิวก็ได้ นอกจากนี้งานโต๊ะและเก้าอี้สำหรับเฟอร์นิเจอร์ยุคนี้ได้มีการเพิ่มลูกเล่น ไม่ว่าจะเป็น การสลัก หรือ นำเบาะรองนั่งมาจัดวางทำให้เครื่องเรือนดังกล่าวน่าใช้มากยิ่งขึ้นด้วยความสร้างสรรค์

10.​เลือกสีที่ถูกใจ

หากยังไม่มีโทนสีในใจสำหรับการตกแต่งผนังส่วนใน เราสามารถนำเอาสีต่างๆมาทาแล้วไล่ระดับเพื่อหาโทนสีที่ถูกใจก่อนที่จะเลือกสีนั้นมาทาและตกแต่งโดยช่างผู้เชี่ยวชาญด้านทาสี ข้อดีของการทดลองเลือกสีนั้นนอกจากได้เห็นสีต่างๆอย่างแท้จริง ยังทำให้คิดต่อได้ว่าจะนำเฟอร์นิเจอร์และเครื่องเรือนแบบไหนมาตกแต่งให้เข้ากัน ยิ่งไปกว่านั้นยังลดความเสี่ยงในการแก้งานเพราะถ้าหากเริ่มทาสีแล้วไม่ถูกใจก็ต้องแก้งานและซื้อสีใหม่ ส่งผลให้เปลืองงบมากขึ้นอีกด้วย

11.​เปิดรับแสงจากธรรมชาติให้ได้มากที่สุด

การตกแต่งภายในที่นอกจากแสงไฟนีออน ทุกคนควรให้ความสำคัญกับการเปิดรับแสงจากธรรมชาติบริเวณรหน้าต่างหรือผนังที่ตกแต่งด้วยบานกระจกใส เพราะแสงจากธรรมชาตินั้นสามารถเข้ามาเติมเต็มภาพรวมการอยู่อาศัยภายในได้หลากหลายด้าน ทั้งการกำจัดกลิ่นอับ การให้ความอบอุ่นในฤดูหนาว การเพิ่มความส่องสว่างโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า รวมทั้งการสร้างอารมณ์และความรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติ

12.​โปร่ง โล่ง สบาย

สำหรับภาพรวมภายในควรมุ่งเน้นความโปร่ง โล่ง สบาย ไม่ว่าจะเป้น การยกเพดานสูง การใช้โทนสีที่ดูเรียบง่ายและส่องสว่าง อาทิ สีขาว รวมทั้งการตกแต่งบานหน้าต่างด้วยกระจกใสเพื่อเปิดรับแสงสว่างจากภายนอกได้อย่างคล่องตัว โดยข้อดีของการตกแต่งในลักษณะนี้สามารถทำให้ภาพรวมการอยู่อาศัยดูสะอาด ปลอดโปร่ง ที่สำคัญดูกว้างแม้ภายในบ้านจะมีพื้นที่จำกัดก็ตาม

13.​สีสันและความเป็นธรรมชาติ

หากโทนสีภายในบ้านดูจืดชืดการนำเอาผลไม้หรือของตกแต่งที่มีโทนสีใกล้เคียงกับธรรมชาติเข้ามาตกแต่ง จะช่วยเพิ่มบรรยากาศภายในให้ดูสดใสมากขึ้น ขณะเดียวกันผู้อยู่อาศัยจะได้รู้สึกและสัมผัสถึงความใกล้ชิดกับธรรมชาติ ที่สำคัญลดความแข็งกระด้างของโครงสร้างที่มีอยู่ให้ลดลงได้อย่างนุ่มลึก

14.​ดัดแปลงให้ใช้ประโยชน์มากกว่าหนึ่ง

ของที่ดูเหมือนว่าจะใช้เพียงในการต่อเติมและซ่อมแซมภายในบ้านอย่างเช่นบันไดแบบปีน หากนำมาดีไซน์ให้เป็นชั้นแขวนของใช้หรือเสื้อผ้าภายในห้องนอน ห้องนั่งเล่น ก็ถือเป็นไอเดียที่สร้างสรรค์ดี เพราะขั้นบันไดแต่ละขั้นสามารถนำเอาผ้ามาห้อยหรือไม้แขวนมาเกี่ยวได้อย่างคล่องตัว อย่างไรก็ดีความดิบของบันไดเมื่อนำมาตกแต่งภายในยังแสดงออกถึงสไตล์คันทรี คลาสลิกและร่วมสมัยได้อย่างมีนัยยะ หนึ่งตัวอย่างการนำเอาของเครื่องใช้ที่มีอยู่มาดัดแปลงเป็นของตกแต่งได้อย่างชาญฉลาด

15.เก็บทุกรายละเอียด

นอกจากราวแขวนผ้าจากบันได การตกแต่งภายในโดยเฉพาะของใช้ที่คู่กันคือส่วนเติมเต็มที่เหมาะสม ยกตัวอย่างเช่น หากราวบันไดเป็นที่แขวนเสื้อผ้า ทุกคนสามารถนำเอากระจกเงามาติดตั้งใกล้ๆได้ เพื่อใช้สำหรับการแต่งตัว เป็นต้น

16.​กระเบื้องที่ทันสมัย

ในส่วนของวัสดุปูพื้นปัจจุบันในตลาดวัสดุก่อสร้างมีทางเลือกให้ช่างปูพื้นและผู้อยู่อาศัยได้เลือกอย่างหลากหลาย  อาทิ กระเบื้องเซรามิก งานหินขัด งานไม้ แบบโมเสค เป็นต้น ซึ่งนอกจากชนิดยังมีเฉดสีและรูปทรงที่แปลกใหม่ไม่ใช่สี่เหลี่ยมแบบเดิมๆอีกมากมาย ทำให้การปูกระเบื้องเพื่อการตกแต่งบ้านยุคนี้ดูทันสมัยและเข้าถึงความต้องการของผู้อยู่อาศัยได้อย่างเหมาะสม

17.​สะอาดสำคัญมาก

พื้นฐานที่ง่ายที่สุดสำหรับการตกแต่งภายในให้ดูสวยงามและน่าอยู่อาศัยอย่างยาวนานคือการรักษาความสะอาด ซึ่งไม่เพียงแต่โครงสร้างอย่างพื้น ผนัง และเพดานเท่านั้น แต่ยังควบรวมไปถึงผ้า ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน ปอกหมอนและที่นอนสำหรับห้องนอนรวมทั้งการจัดการกับฝุ่นบริเวณม่านและคราบสกปรกบริเวณบานหน้าต่าง ที่สำคัญการดูแลภาพรวมภายในไม่ให้ดูรกรุงรัง เพียงเท่านี้ไม่ว่าจะห้องไหนๆภายในบ้านก็จะสวยงามและน่าอยู่อาศัยในทุกวัน

18.​ไม้กับโทนสีขาว

การตกแต่งภายในยอดฮิตสำหรับผู้ที่รักและไหลในสไตล์ร่วมสมัยแบบคลาสลิก คือ การนำเอางานไม้และโทนสีขาวมาตกแต่งคู่กัน โดยสามารถปรับใช้ได้ในทุกมุมห้อง ดังเช่นไอเดียบุคภาพนี้ที่นำเอาไม้และโทนสีขาวมาดีไซน์ในห้องน้ำได้อย่างลงตัว ซึ่งไม่เพียงแต่ความสวยงามความโดดเด่นของไม้ยังทนทานต่อทุกสภาพการใช้งาน ยิ่งไปกว่านั้นยังยึดฐานรากที่ดีของโครงสร้างให้เกิดความแน่นหนา รู้สึกปลอดภัย สำหรับสีขาวนั้นให้อารมณ์และความรู้สึกที่สะอาด สดใหม่ ดูทันสมัย และเข้ากับงานไม้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ มองแล้วผ่อนคลาย ทำให้ภาพรวมภายในมีโทนสีนวล

ฉะนั้นการนำเอางานไม้และโทนสีขาวมามิกซ์ยูสให้เข้ากันทำให้การตกแต่งภายในมุมนั้นๆ ดูอบอุ่นน่าอยู่อาศัยขึ้นมาถนัดตา และยังแสดงออกถึงความเรียบง่ายได้อย่างนุ่มลึก

19.​พรม

หนึ่งของตกแต่งที่เรียกว่าขาดไม่ได้แม้เป็นของที่ดูเล็กและบางครั้งถูกมองว่าไม่จำเป็นก็ตาม นั้นคือ พรม ปัจจุบันพรมมีโทนสีและเนื้อผ้าให้เลือกอย่างหลากหลาย นิยมตกแต่งในมุมห้องต่างๆ อาทิ ห้องนอน ห้องนั่งเล่น โดยประโยชน์ของพรมไม่ได้มีไว้แต่ความสวยงามแต่ยังควบรวมไปถึงการใช้งานที่นุ่มสบาย ทำให้มุมดังกล่าวดูโดดเด่น ที่สำคัญรักษาพื้นผิวเดิมให้ดูสดใหม่ มีอายุการใช้งานที่ยาวขึ้น ทั้งนี้ยังบ่งบอกถึงรสนิยมการตกแต่งของผู้อยู่อาศัยได้อีกด้วย ฉะนั้นการเลือกพรมสักผืนมีนัยยะและความหมายที่ลึกซึ้งต่อการตกแต่งภายในมากพอสมควร

20.​เก้าอี้ที่แตกต่าง

การใช้งานภายในแต่ละมุมห้องมีความแตกต่างกันออกไป ฉะนั้นการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์อย่างเก้าอี้ก็ต้องเลือกให้เหมาะสม อาทิ มุมห้องนอนควรเป็นม้านั่งเพราะมุมดังกล่าวมีไว้พักสายตาหรืออ่านหนังสือแบบชั่วคราว มุมสระน้ำหรือนั่งเล่นกลางแจ้งควรเป็นแบบเอนนอนเพราะจะได้เหยียดร่างกายได้อย่างผ่อนคลายและรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติไปด้วย มุมนั่งเล่นควรเป็นเก้าอี้แบบธรรมดาเหมือนกับมุมรับประทานอาหาร เพราะใช้นั่งเล่นและกินข้าวสรีระไม่ควรเกิดการดัดแปลง นอกจากชนิดของเก้าอี้สิ่งเล็กๆที่ห้ามมองข้ามเช่นกัน คือ โทนสี วัสดุที่นำมาใช้สร้างเก้าอี้ รวมทั้งความเหมาะสม โดยทั้งหมดที่กล่าวมาเบื้องต้นจะช่วยให้การอยู่อาศัยเกิดความสะดวกสบายและสวยงามโดยเริ่มจากเก้าอี้นั้นเอง

21.โถงทางเดินเข้าที่กว้าง

บริเวณภายในสำหรับโถงทางเดินเข้าสู่ตัวบ้าน ควรออกแบบและตกแต่งอย่างเรียบง่าย มุ่งเน้นเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นและน้อยชิ้น เพื่อทำให้มุมดังกล่าวดูกว้าง ไม่เพียงเท่านั้นยังควรโปร่งและสะอาด ไม่จะเป้นการเลือกใช้โทนสีขาวหรือติดตั้งบานกระจกใสไว้บริเวณประตูหรือหน้าต่าง ทั้งนี้ส่วนอื่นๆยังตกแต่งได้ด้วยพรมบริเวณพื้น โต๊ะกลางและกระจกเงา รวมทั้งชั้นวางรองเท้า

22.จัดวางชิดผนัง

อย่างที่กล่าวไว้เบื้องต้น การตกแต่งภายในส่วนใหญ่จัดเรียงชิดกับผนัง ซึ่งนอกจากความเป็นระเบียบของเฟอร์นิเจอร์และเครื่องเรือนแล้วนั้น ยังทำให้พื้นที่ส่วนกลางนั้นดูกว้างมากพอในการใช้สอยอื่นๆ อาทิ การเดิน การนั่ง รวมทั้งการทำความสะอาด ทั้งนี้ยังทำให้มุมห้องนั้นๆดูกว้างขึ้นอีกด้วย จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมการจัดวางแบบชิดผนังถึงกลายเป็นทางเลือกสำหรับการตกแต่งภายในของบ้านทุกหลัง

23.​มุมแต่งตัวแบบบิวท์อิน

ห้องแต่งตัวสำหรับบ้านแต่ละหลังจะมีขนาดไม่เท่ากัน อาทิ บางหลังจะอยู่ในพื้นที่เดียวกับห้องนอน หรือบางหลังจะออกแบบแยกออกมา โดยการสร้างแบบแยกออกมานั้นส่วนใหญ่จะเป้นบ้านเดี่ยวเพราะมีพื้นที่ใช้สอยที่กว้าง แต่ถ้าหากบ้านมีขนาดกะทัดรัดก็สามารถดีไซน์แบบแยกออกมาได้เช่นกันในลักษณะบิวท์อิน ผ่านการนำเอาชั้นวางของและตู้เสื้อผ้าไว้ชิดกับผนัง โดยอาจแบ่งออกเป็นช่องๆที่ดูกว้างและจัดเก็บเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าได้อย่างสมส่วน ดังเช่นไอเดียบุคนี้

นอกจากนี้เฉดสีที่ควรนำมาใช้ควรเป็นโทนสีที่ดูเรียบง่ายแต่ทันสมัย อาทิ สีขาวหรือสีดำ ไม่เพียงเท่านั้นควรแบ่งพื้นที่ตรงกลางไว้แต่งตัวหรือเดินเลือกเสื้อผ้าด้วยความคล่องตัว สำหรับบริบทโดยรอบควรออกแบบในลักษณะโล่ง เปิดรับความส่องสว่างทั้งจากธรรมชาติและไฟฟ้าที่เหมาะสมเพื่อทำให้การแต่งกายดูสะดวกสบาย และนี่คือหนึ่งไอเดียสำหรับห้องแต่งตัวที่ทุกคนนำไปต่อยอดปรับใช้ได้อย่างลงตัว

24.​เตาผิงภายในบ้าน

แม้อากาศในไทยจะไม่จำเป็นต้องการเตาผิงในฟดูหน่าว แต่ประโยชน์ของเตาดังกล่าวไม่ได้มีไว้แต่สร้างความอบอุ่น ยังควบรวมไปถึงการตกแต่งภายในที่ดูสวยงาม สะท้อนถึงสไตล์คลาสลิกแบบยุโรป ยิ่งเมื่อไม่ได้ใช้งานการนำเอาฝืนมาจัดใส่ในตะกร้ายังเพิ่มกลิ่นอายในสไตล์คันทรีได้เป็นอย่างดี แต่เมื่อต้องการใช้ก็สามารถใช้สอยได้อย่างสะดวกสบาย อีกทั้งเตาผิงไฟแบบธรรมชาติยังลดการใช้พลังงานไฟฟ้ายามอากาศหนาวได้จากฮีตเตอร์ได้เป็นอย่างดี

เตาผิงถือเป็นหนึ่งฟังก์ชันที่ดูเหมือนจะห่างไกลแต่มีไว้ก็ไม่ได้เสียหายอะไร อีกทั้งยังดูสวยงามอีกด้วย

25.สีขาวสีพื้นยอดนิยม

อย่างที่ทราบกันดี สีขาวคือสีพื้นที่ดีที่สุดในการตกแต่งภายใน เพราะนอกจากความสดใหม่และสะอาดตา ยังยืดหยุ่นและคล่องตัวต่อการตกแต่งคู่กับเฟอร์นิเจอร์และเครื่องเรือนอื่นๆ ทั้งนี้ประโยชน์ของสีขาวยังให้อารมณ์และความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติ เรียบง่าย ที่สำคัญเสริมให้มุมมองของห้องดูกว้างขึ้นมาในลักษณธโปร่ง โล่ง สบาย

การเตรีมตัวเบื้องต้นและรู้เทคนิคการตกแต่งภายในที่หลากหลาย ช่วยให้ภาพรวมของบ้านดูสวยงาม สะดวกสบาย และน่าอยู่อาศัยขึ้นมาอย่างถนัดตา ไม่เพียงเท่านั้นยังดูแล้วสุขใจ ลดการใช้พลังงานไฟฟ้า รวมทั้งแสดงออกถึงรสนิยมของยุคสมัยนั้นได้อย่างมีวัฒนธรรม อย่าลืมลองนำไปปรับใช้กันนะครับ

Need help with your home project?
Get in touch!

Highlights from our magazine